วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ไตคืออะไร การทำงานของไตทำอย่างไร

ไตเป็นอวัยวะที่อยู่ในระบบประสาทส่วนกลางและเป็นส่วนหนึ่งของระบบประสาทนอกส่วนกลาง ไตมีหน้าที่สำคัญในการกรองเสียงพิษและของเสียจากร่างกาย รวมถึงการควบคุมสมดุลน้ำและเกลือในร่างกาย



การทำงานของไตเกี่ยวข้องกับกระบวนการกรองเลือด ซึ่งไตจะผลักเลือดที่ได้รับมาจากหลอดเลือดไปผ่านหน้าแผลกรอง (glomerulus) ซึ่งเป็นเส้นใยเล็ก ๆ ที่สามารถรั่วไหลของสารอุดตัน สารพิษ และของเสียออกไป จากนั้น เลือดที่ผ่านกระบวนการกรองจะถูกเก็บรวบรวมในท่อที่มีชื่อว่าท่อไทย (tubules) เพื่อจะสะสมน้ำ เกลือ และสารอื่น ๆ ที่ร่างกายยังต้องการ


นอกจากนี้ ไตยังมีหน้าที่สร้างฮอร์โมนเรียกว่าเร็นิน (renin) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต และฮอร์โมนอื่น ๆ เช่นอีริทรอปอยเติน (erythropoietin) ที่สั่งการให้ระบบทางเลือดสร้างเซลล์เลือดแดง


รวมกันเป็นส่วนหนึ่งของระบบและหน้าที่ที่หลากหลายนี้ ไตเป็นอวัยวะที่สำคัญและมีบทบาทในการรักษาสมดุลน้ำและเกลือของร่างกายให้เป็นปกติ

สาเหตุหลักใหญ่ๆ 5 ข้อ ที่ทำให้เกิดโรคไต

 สาเหตุหลักที่ส่งผลให้เกิดโรคไตมีหลายปัจจัย แต่นี่คือ 5 สาเหตุหลักที่มักเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคไต:



1. โรคเบาหวาน: โรคเบาหวานเป็นสาเหตุหลักที่เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพไต ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้ไตทำงานหนักเพื่อตัดสินใจถ่ายเทอาหารตกค้าง ซึ่งส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพไตตามมา


2. ความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงสามารถทำให้หลอดเลือดในไตเสื่อมสภาพและเสียหายได้ ซึ่งสามารถเป็นสาเหตุของโรคไต


3. โรคไตวายเต้านม: เป็นภาวะที่ต่อต้านภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเนื้อเยื่อไต สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากปัจจัยที่ไม่แน่นอนและความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน


4. การใช้ยาบางชนิด: มีบางกลุ่มยาที่สามารถทำให้เกิดภาวะเสื่อมสภาพไตได้ เช่น ยาต้านอัลดอสเตอโรน (NSAIDs) และยาต้านการจับเกิดกรด (Proton pump inhibitors)


5. การติดต่อเชื้อ: การติดเชื้อทางไตอาจเป็นสาเหตุของโรคไตบวก ตัวอย่างเช่น การติดเชื้อของเชื้อ E. coli หรือเชื้อสเตรป๊อคตรอส (Streptococcus) อย่างไรก็ตาม สำหรับแต่ละบุค


คล อาจมีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับโรคไต และควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

การรัษาไตโดยวิธีธรรชาติ ทำอย่างไร ข้อปฎิบัติเป็นข้อๆ

 การรักษาไตโดยวิธีธรรมชาติเน้นไปที่การดูแลสุขภาพทั่วไปเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพไตและสารพิษในร่างกาย นี่คือข้อปฏิบัติที่สามารถทำเพื่อรักษาไตในวิธีธรรมชาติ:



1. รักษาความดันโลหิตในเกณฑ์ปกติ: ความดันโลหิตสูงอาจเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพไต คุณควรควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติตามคำแนะนำของแพทย์


2. รับประทานอาหารที่เหมาะสม: การรักษาไตด้วยวิธีธรรมชาติเริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ควรเลือกอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสมดุล และลดการบริโภคโซเดียมและอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง โดยควรปรึกษากับโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับเมนูอาหารที่เหมาะสมสำหรับคุณ


3. ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอช่วยในการล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย คุณควรดื่มน้ำเพียงพอตามคำแนะนำของแพทย์


4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยเสริมสร้างระบบทางเลือกของร่างกาย ลดความเสี่ยงต่อโรคไตและช่วยควบคุมน้ำห

การฟอกไต คืออะไร และทำอย่างไร?

 การฟอกไตเป็นกระบวนการที่ใช้ในการกำจัดสารพิษและของเสียจากร่างกายที่ไตไม่สามารถล้างออกได้เอง มีวิธีการฟอกไตหลายวิธี ดังนี้:



1. ไตเทียม (Dialysis): ไตเทียมเป็นกระบวนการใช้เครื่องกลึง (dialyzer) เพื่อกรองเลือดและเอาสารพิษออกจากร่างกาย มีสองวิธีหลักคือไตเทียมแบบไดเลเซชั่น (hemodialysis) และไตเทียมแบบหนุ่มละออง (peritoneal dialysis) กระบวนการนี้จำเป็นต้องทำในโรงพยาบาลหรือศูนย์ไตเทียมที่มีการดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์และพยาบาลที่เชี่ยวชาญ


2. ปลายสุดไตเทียม (End-stage Renal Replacement Therapy): สำหรับผู้ป่วยที่ไตเสื่อมสภาพรุนแรงมากและไม่สามารถรักษาด้วยไตเทียมได้อีก อาจจำเป็นต้องพิจารณาการปลูกถ่ายไต (Kidney Transplantation) ซึ่งเป็นกระบวนการสองชั้นวิธีที่ไตที่เสื่อมสภาพถูกนำออกและไตใหม่ถูกปลูกให้แทนที่


สำหรับกระบวนการฟอกไตที่เกี่ยวข้องกับไตเทียม คุณจะต้องรับการดูแลและติดตามของทีมแพทย์และพยาบาลที่เชี่ยวชาญ โดยประสงค์เพื่อให้ไตของคุณสามารถทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 


ผ่าตัดทำเส้นเลือดสำหรับฟอกไต ทำอย่างไร

การผ่าตัดเพื่อทำเส้นเลือดสำหรับฟอกไตเรียกว่า "การผ่าตัดสร้างเส้นเส้นทางเลือดสำหรับการฟอกไต" (Arteriovenous Fistula Surgery) และวิธีที่ใช้ที่พบบ่อยคือ:


1. เส้นเส้นทางทางตรง (Direct Path): ในกระบวนการนี้ แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อเชื่อมต่อเส้นเลือดหลอดเลือดของคุณกับหลอดเลือดขนาดใหญ่เพื่อสร้างทางผ่านให้เลือดไหลเข้าสู่เส้นเลือดฟอกไตที่สร้างขึ้น หลังจากการผ่าตัดนี้ สายเลือดจะเริ่มเจริญเติบโตและเส้นเส้นทางเลือดฟอกไตจะเข้าสู่สภาพที่เหมาะสมสำหรับการฟอกไต


2. เส้นเส้นทางทางปลาย (Graft): ในกรณีที่หลอดเลือดขนาดใหญ่ไม่เหมาะสมสำหรับการเชื่อมต่อโดยตรง หรือมีปัญหาทางเทคนิคที่ไม่อนุญาตให้ใช้เส้นทางตรง แพทย์จะสร้างทางเลือดเทียมโดยใช้วัสดุเส้นผ่าศูนย์กลาง (Graft) ซึ่งเป็นหลอดผูกเป็นรูปทรงท่อเพื่อเชื่อมต่อระหว่างหลอดเลือดของคุณกับหลอดเลือดขนาดใหญ่


หลังจากการผ่าตัดสร้างเส้นเลือดสำหรับฟอกไต จะใช้เวลาสักระยะหนึ่งให้เส้นเส้นทางเลือดเจริญเติบโตและเข้าสู่สภาพที่เหมาะสมสำหรับการฟอกไต ในร


ะหว่างนั้น อาจใช้เส้นเส้นทางเลือดชั่วคราว (Temporary Catheter) สำหรับการฟอกไตชั่วคราวจนกว่าเส้นเส้นทางเลือดสำหรับฟอกไตที่ผ่านการผ่าตัดจะเสร็จสมบูรณ์และพร้อมใช้งานได้

โรคไตคืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร ?

โรคไตคืออะไร?

 ขออธิบายโรคไต (Chronic Kidney Disease) ให้เพิ่มเติมค่ะ โรคไตเป็นภาวะที่ไตไม่สามารถทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อล้างสารพิษและเก็บของเสียจากเลือดได้ตามปกติ ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ คือ:



โรคไคเกิดจากสาเหตุอะไร 

1. โรคเบาหวาน: โรคเบาหวานเป็นสาเหตุที่สำคัญในการเกิดโรคไต การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ไม่เสถียรอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพไต


2. โรคความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงที่ไม่ควบคุมได้อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพไต


3. โรคตับ: บางสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพตับอาจส่งผลต่อการทำงานของไต


4. การใช้ยาต้านอัลบูมิน: บางยาต้านอัลบูมินที่ใช้ในการรักษาความดันโลหิตสูงอาจมีผลต่อการทำงานของไต


5. การติดเชื้อ: การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะหรือการติดเชื้อที่อื่นในร่างกายอาจส่งผลทำให้เกิดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพไต


6. พันธุกรรม: บางรายมีความเสี่ยงในการเป็นโรคไตเนื่องจากปัจจัยพันธุกรรม


โรคไตเป็นโรคเรื้อรังที่พัฒนาเป็นช้าๆและสามารถควบคุมการเสื่อมสภาพไตและการกำจัดสารพิษในร่างกายได้หากได้รับการรักษาและดูแลอย่างถูกต้อง การรักษาโรคไตมุ่งเน้นในการควบคุมโรคต้นเหตุและการบำรุงสุขภาพไต โดยประกอบด้วยการควบคุมความดันโลหิต ความเสี่ยงทางชีวภาพ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดูแลสุขภาพ และในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้การรักษาทางการแพทย์เพื่อช่วยรักษาสภาพไตได้อย่างเหมาะสม

การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไต

 การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตเป็นสิ่งสำคัญเพื่อส่งเสริมสุขภาพของไตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วย ด้านล่างนี้เป็นแนวทางทั่วไปในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไต:


1. ปฏิบัติการรักษาแบบสม่ำเสมอ: ผู้ป่วยโรคไตควรปฏิบัติการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการรับประทานยาตามคำสั่งและการตรวจสุขภาพเป็นประจำ


2. ควบคุมการบริโภคอาหาร: ผู้ป่วยโรคไตควรรับประทานอาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูงในปริมาณที่เหมาะสม และลดการบริโภคอาหารที่มีสารอาหารเสี่ยงอย่างโซเดียม และคาร์บอไฮเดรต


3. รักษาความดันโลหิต: การควบคุมความดันโลหิตเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาโรคไต ผู้ป่วยควรรักษาความดันโลหิตให้คงที่ตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การใช้ยาและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกี่ยวข้อง


4. ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอช่วยในการล้างสารพิษออกจากร่างกาย และส่งเสริมการทำงานของไต ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์


5. ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นประโยชน์ต่อระบบไต ช่วยส่งเสริมการไหลเวียนเลือดและความสมดุลของระบบหมอกเลือด ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประเภทและระดับความหนักของกิจกรรมที่เหมาะสมสำหรับสภาพของผู้ป่วย


6. หลีกเลี่ยงสารพิษ: ผู้ป่วยโรคไตควรหลีกเลี่ยงสารพิษที่อาจส่งผลต่อสุขภาพไต เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ และสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่อไต


7. รักษาโรคร่วม: ถ้าผู้ป่วยโรคไตมีโรคร่วมอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ควรรักษาโรคร่วมอย่างสม่ำเสมอเพื่อควบคุมสถานะของโรคและลดภาวะภัย


8. ปฏิบัติการตรวจสุขภาพ: ผู้ป่วยโรคไตควรปฏิบัติการตรวจสุขภาพตามที่แพทย์ระบุ เช่น ตรวจระดับครีอาตินีน ตรวจภาพไต และตรวจสารเครื่องหมายทางห้องปฏิบัติการ เพื่อประเมินสถานะของไตและปรับการรักษาตามความจำเป็น


9. ให้ความร่วมมือของทีมการแพทย์: ผู้ป่วยควรปฏิบัติการรักษาโรคไตในความร่วมมือกับทีมการแพทย์ที่ดูแล เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด


10. ความรับผิดชอบส่วนตัว: ผู้ป่วยโรคไตควรใส่ใจและดูแลสุขภาพของตนเองอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติการตามคำแนะนำที่ได้รับเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

เมื่อเป็นโรคไต อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงมีอะไรบ้าง?


อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อเป็นโรคไต?

เมื่อพูดถึงอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเป็นผู้ป่วยโรคไต สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงได้แก่: 1. อาหารที่มีปริมาณโปรตีนสูง: เช่น เนื้อสัตว์แดดเดียว เนื้อวัว เนื้อกุ้ง เนื้อปลาแซลมอน หรืออาหารที่มีผลต่อการเก็บของเสียในร่างกาย เช่น ไข่ เนย นม เนยถั่วเหลือง เนยถั่วดำ 2. อาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูง: เช่น เกลือ อาหารที่มีส่วนประกอบที่มีปริมาณโซเดียมสูง เช่น อาหารที่รสเค็ม เครื่องปรุงรสชนิดต่างๆ 3. อาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูง: ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูงเพื่อป้องกันความอ้วนที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเสื่อมสภาพไต 4. อาหารที่มีสารเคมีและสารแปลกปลอม: ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่มีสารเคมีและสารแปลกปลอมที่อาจเป็นอันตรายต่อไต 5. อาหารและเครื่องดื่มที่มีการบำรุงสุขภาพที่ไม่เหมาะสม: เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง น้ำเสียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในโรคไต ควรปรึกษากับโภชนาการหรือแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านโรคไตเพื่อคำแนะนำและแผนอาหารที่เหมาะสมต่อคุณ


เมนูอาหาร 10 อย่างทานได้ สำหรับผู้เป็นโรคไต

เมื่อเป็นผู้ป่วยโรคไตหรือเส้นเส้นทางไตทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ การรักษาและการดูแลผู้ป่วยควรคำนึงถึงการบริโภคอาหารที่เหมาะสมและสมดุลในระดับโปรตีน โดยจะต้องปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อลดการเฉี่ยวชายของไต และควบคุมปริมาณสารอะมูเนียในเลือด ดังนี้คือ 10 เมนูอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคไต:

1. ไข่ต้ม: ไข่ต้ม บริเวณไข่ขาว เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีปริมาณโปรตีนต่ำกว่าเนื้อสัตว์อื่น ๆ เลือกทานไข่ต้มเป็นเมนูอาหารเสริมโปรตีนที่ดีสำหรับคุณ.

2. เนื้อปลา: เลือกปลาที่มีปริมาณไขมันต่ำ เช่น ปลาแซลมอน, ปลากระพงหรือปลาทูน่า เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีปริมาณไขมันสูงน้อย.

3. เนื้อไก่: เลือกส่วนที่ไม่มีผิวหนังและนำมาปรุงอาหารได้แบบไม่ใช้น้ำมันหรือใช้น้ำมันน้อย.

4. เนื้อวัวหรือเนื้อหมูที่ไม่มีผิวหนัง: เลือกเนื้อที่มีปริมาณไขมันน้อยและหมู่รสชาติเส้นใย. ตัวนี้ทานได้แต่ทานมากไม่ไดี..

5. ผักสด: ผักสดเน้นเฉพาะผักสีขาว เป็นอาหารที่มีปริมาณโปรตีนน้อยแต่มีประโยชน์ในการควบคุมความเสี่ยงต่อโรคและรักษาสมดุลน้ำในร่างกาย.


6. ข้าวโอ๊ต: ข้าวโอ๊ตมีปริมาณโปรตีนและใยอาหารสูง เป็นแหล่งพลังงานที่ดีและสามารถช่วยในการควบคุมความดันเลือดได้.

7. ผลไม้: ผลไม้เป็นแหล่งวิตามิน และเส้นใยที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรเลือกผลไม้ที่มีปริมาณโปรตีนต่ำ เช่น แอปเปิ้ล, ส้ม, กล้วย, และสตรอเบอร์รี่.

8. ถั่วและเมล็ดพืช: เลือกถั่วและเมล็ดพืชที่มีปริมาณโปรตีนสูง เช่น ถั่วเหลือง, เมล็ดสาลี่, และเมล็ดทานตะวัน.

9. นมถั่วเหลือง: นมถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและไม่มีคอเลสเตอรอล ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตและรักษาสมดุลของสารอะมูเนียในเลือด.

10. ข้าวกล้อง: ข้าวกล้องมีปริมาณโปรตีนสูงและมีใยอาหาร เป็นแหล่งพลังงานที่ดีและช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด.

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกอาหารและความเหมาะสมในการรับประทานอาหาร ควรปรึกษาแพทย์หรือโภชนากรเพื่อให้ได้แนวทางที่เหมาะสมตามสภาวะสุขภาพและความต้องการของคุณเอง

การปฎิบัติตนเมื่อเป็นผู้ป่วยโรคไต

การปฎิบัติตนเมื่อเป็นผู้ป่วยโรคไต

เมื่อเป็นผู้ป่วยโรคไต การปฏิบัติตนสำคัญที่ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพไตได้อย่างเหมาะสมได้แก่:

1. รับประทานยาตามคำสั่งแพทย์: ควรปฏิบัติการรับประทานยาตามคำแนะนำที่ได้รับจากแพทย์เพื่อควบคุมอาการและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโรคไต 2. ควบคุมการบริโภคโปรตีน: การควบคุมปริมาณโปรตีนในอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เพราะไตที่เสื่อมสภาพอาจไม่สามารถขับถ่ายสารพิษจากโปรตีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรปรึกษากับโภชนาการเพื่อปรับสูตรอาหารให้เหมาะสม 3. ควบคุมการบริโภคโซเดียม: การลดปริมาณโซเดียมในอาหารช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูง ควรเลือกอาหารที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ เช่น อาหารสด ผัก และผลไม้ 4. รักษาความดันโลหิตในเกณฑ์ปกติ: ควรควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดการเสี่ยงต่อภาวะเสื่อมสภาพไต 5. ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเพียงพอช่วยล้างสารพิษและสารตกค้างออกจากร่างกาย ควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอตามคำแนะนำของแพทย์


ไตคืออะไร การทำงานของไตทำอย่างไร

ไตเป็นอวัยวะที่อยู่ในระบบประสาทส่วนกลางและเป็นส่วนหนึ่งของระบบประสาทนอกส่วนกลาง ไตมีหน้าที่สำคัญในการกรองเสียงพิษและของเสียจากร่างกาย รวมถึง...